หัวซ้าย
นกน้อยทำรังแต่พอตัว   ไม่อยากจนจงอย่าเป็นหนี้  ( อย่าคิดมีบัตรเครดิต ถ้ายังไม่พร้อม  จะเจอดอกเบี้ยมหาโหด )
กลับหน้าแรก   ขอคำปรึกษาเป็นการส่วนตัว โดยตรงกับนักกฏหมาย
เมนต์หลัก
หัวซ้าย
นกน้อยทำรังแต่พอตัว   ไม่อยากจนจงอย่าเป็นหนี้  ( อย่าคิดมีบัตรเครดิต ถ้ายังไม่พร้อม  จะเจอดอกเบี้ยมหาโหด )
Language
สมาชิก VIP Login ที่นี่ค่ะ
User login
user
pwd

เพิ่มเพื่อน
รับข่าวสาร
มาเป็นเพื่อนเรามีแต่ได้

วิทยุปลดหนี้

maps.google.com
 
พันธมิตร & ผู้สนับสนุน

อุปกรณ์นักสืบ
(ขาย-ให้เช่า)
เจ้ากรรมนายเวร
เจ้ากรรมนายเวร
เวรกรรมแก้ไม่ได้
แต่หยุดเวรกรรมได้
คน10จำพวกคบไม่ได้
ID: 0863222544
 
Welcome To  S Detective & lawyer Online
เปิดเผยความจริง  เพื่อให้เกิดความยุติธรรม

ลูกหนี้

ถ้าไม่อยากเป็นลูกหนี้ จงอย่าคิดกู้ยืมเงินมาโดยเด็ดขาด "เห็นช้างขี้ อย่าขี้ตามช้าง" มีเงิน
เท่าไรก็ใช้เท่านั้น อย่าได้หลงเชื่อโฆษณาที่ให้กู้ยืมเงินทางสื่อต่างๆ ไมว่าจะเป็นบัตรเครดิต
เงินกู้ด่วน บัตรผ่อนของ สมาชิกหลายคนที่หลงเชื่อก็จะตกอยู่ในวังวนของหนี้สินไม่รู้จบ จะหา
ทางออกจากวังวนนี้ได้ยาก มีแต่จะตกต่ำลงไปเลื่อยๆ บางคนทำงานมีเงินเดือนเป็นหมื่นๆ ไม่
อาจใช้หนี้พวกนี้ได้หมด เพราะพวกเจ้าหนี้จะรู้ว่า เมื่อลูกหนี้มีเงินมากเงินเดือนสูงๆ ็ถือว่ามี
ศักยภาพทางการเงินดีจะพยายามยัดเยียดเงินให้เพิ่มอีกมากกว่าเดิม โดยใช้คำพูดล่อหลอก
ชักชวนต่างๆ นาๆ ในที่สุดลูกหนี้ก็ใช้เงินเกินตัว เพราะเห็นว่าเงินได้มาง่ายเครดิตดี มีเงิน
เดือนให้หัก สุดท้ายก็ตกเป็นหนี้ที่ใช้ไม่มีวันหมด

ถ้าจำเป็นและหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเป็นหนี้บัตรเครดิต หรือเงินกู้ยืม หรือบัตรผ่อนสินค้า
ก็ขอให้หาทางออกทางกฎหมายเอาไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันตัวจะดีกว่า พอถึงเวลาไม่มีเงินใช้
หนี้จริงจะได้ไม่ต้องคิดฆ่าตัวตาย (เพราะเวลาถูกทวงหนี้ พวกนี้มักจะไม่ไว้หน้าท่านเลย
พูดง่ายๆ คือ "ทวงพูดแบบสุนัขไม่รับประทาน" แถมทั้งขู่จะฟ้อง จะยึดทรัพย์ จะอายัดเงินเดือน)

ท่านที่เป็นหนี้และถูกทนายเจ้าหนี้บอกว่าให้ไปประนอมหนี้ และส่งสำเนาบัตรประชาชน
ไปให้ทนายความหรือเจ้าหนี้ จงระวังเอาไว้ให้ดีท่านอาจจะเสียเปรียบหรือเสียหายมากกว่าที่
ท่านเป็นหนี้อยู่ หรืออาจจะมีหนี้เพิ่มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว การที่ทนายเจ้าหนี้บอกให้ไปประนอมหนี้
ถ้าท่านไปแล้ว และทนายเจ้าหนี้ไม่สามารถ ที่จะรับข้อเสนอท่านได้ จงอย่าลงชื่อใดๆ ในเอกสาร
ที่ทนายเจ้าหนี้หรือพนักงานเจ้าหนี้เอามาให้ลงชื่อโดยเด็ดขาด ยังมีหนทางอีกมากที่ จะประนอม
หนี้กับเจ้าหนี้ (ขอให้ไปดูเรื่องการประนอมหนี้ที่เราเขียนไว้) มีหลายท่านที่โทรมาปรึกษากับ
ผมก็แนะนำและชี้ช่องกฎหมายให้ แต่ก็ยังมีหลายคนไปโดนฝ่ายเจ้าหนี้หลอกเอาจนได้ ดังภาษิต
ที่ว่า "เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย" และหลายท่าน ที่ไม่เชื่อคำแนะนำของเราเห็นว่าไม่
สำคัญ ภาษิตที่ว่า "ไม่เห็นโลง ไม่หลั่งน้ำตา" คนรู้กฎหมายย่อมได้เปรียบคนไม่รู้กฎหมาย
นักกฎหมายของเจ้าหนี้จะไม่มีคำว่าปรานีลูกหนี้แม้แต่น้อย (เราเตือนท่านแล้วนะ ไม่ฟังก็
ไม่ว่ากัน)

ลูกหนี้ที่คิดว่าตัวเองฉลาด
กว่าเจ้าหนี้ หรือทนาย ควรอ่านตรงนี้ก่อน

  ลูกหนี้ที่คิดว่าตัวเองเก่งกว่าเจ้าหนี้ หรือทนายเจ้าหนี้ โดยจะใช้ช่องกฎหมายที่ไปถามมา
จากหลายเว็บ และได้รับคำแนะนำข้อกฎหมายต่างๆนาๆ ถูกบ้างผิดบ้าง และทำตัวอวดเก่ง
คิดว่าตัวเองนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ จะรอบรู้กหมายไปทั้งหมด และคิดจะเอาข้อกฎหมาย
ที่ถูกบ้างผิดบ้างไปดำเนินการ หรือสู้กับทนายเจ้าหนี้ทั้งศาลและนอกศาลนั้น
บอกตรงๆ ผมไม่เห็นว่ามีลูกหนี้รายไหนไปรอดสักราย ในที่สุดก็ถูกยึดทรัพย์ ถูกอายัด
เงินเดือน ถูกตามไปขู่ที่บ้านพ่อแม่ให้จ่ายเงิน ที่เป็นเช่นนี้เพราะ ตัวลูกหนี้เองทำเก่งอวด
เก่งรอบรู้กฎหมายไปหมดทุกเรื่องทั้งๆที่ตัวเองไม่มีความรู้กฎหมายเลย แต่เข้าใจว่า คำตอบ
กฎหมายหรือบทความกฎหมายที่เข้าไปอ่าน และเอาไปใช้ก็ต้องประสบความสำเร็จ โดยไม่
ต้องถูกอายัดเงินเดือน ไม่ต้องถูกยึดทรัพย์สิน หรือต่อรองขอลดเงินผ่อนชำระกับเจ้าหนี้เดือน
ละ ๕๐๐-๑,๐๐๐ บาท
     "สงสารก็สงสาร สมน้ำหน้าก็สมน้ำหน้า" บ้างคนโทรมาคุยถามข้อกฎหมาย พูดจาหยิ่งมาก
ทั้งๆ ที่ตัวเองกำลังมีปัญหากับเจ้าหนี้ทางกฎหมาย แต่อวดรู้อวดเก่งกับคนที่ตัวเองมาขอความ
รู้กฎหมายเพื่อเอาไปแก้ปัญหาของตัวเอง .. ขอบอกพวกที่โทรมาและทำหยิ่งอวดรู้ดอวดเก่ง
คิดว่าตัวเองจบบัญชี จบบริการจัดการ จบวิศวกร จบสถาปนิก จบปริญาโท หรือปริญาเอก
คิดว่าจะต้องรอบรู้มากกว่า ทำงานในตำแหน่งที่สูงส่งหรือเป้นเจ้าของบริษัท และคิดว่าตัวเอง
อยู่สูงกว่าผู้ที่ตัวเองกำลังจะขอให้เขาแก้ปัญหาให้ บอกตรงๆ พวกที่โทรมานั้น ต้องการจะหา
ช่องทางชักดาบเจ้าหนี้มากกว่า แต่ไม่อยากเสียเิงินค่าปรึกษาเท่านั้น "อยากได้ฟรีๆ"
จึงขอเตือนลูกหนี้ทั้งหลายที่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่ทำงานและที่บ้าน อย่าคิดว่าตัว
เองเก่ง ทำตัวอวดรู้กฎหมายเพราะเรียนมาสูง มีตำแหน่งในบริษัทใหญ่โต จะโทรคุยอะไร
กับใครก็ได้ จะส่งอีเมล์มาหลอกถามทั่วทุกเว็บ เพราะไม่มีใครรู้จักตัวจริงหรือเห็นหน้าตากัน
บางคนใช้อีเมลที่ถาม ๔-๕ อีเมล์ และจะไม่ระบุชื่อละนามสกุลจริง

       ขอเตือนว่า "เป็นหนี้จะแก้ปัญหาได้ต้องให้ผู้รู้และสามารถดำเนินการให้ได้เท่านั้น อย่า
คิดว่าแค่อ่านกฎหมายแล้วจะรู้กฎหมายทั้งหมดแล้ว"
หากยังคิดทำตัวหยิ่งและอวดเก่งคิดว่า
คนอื่นโง่กว่าตัวเอง คิดว่าตัวเองฉลาดกว่าคนที่ตัวเองมาขอให้แก้ปัญหาแล้ว จะมีใครหน้าไหน
จะฉลาดมาช่วยแก้ปัญหาให้ได้อีกละครับ "ตัวเองโง่แล้ว คิดว่าคนอื่นจะโง่ตามตัวเอง"

   ลูกหนี้ที่ต้องการจะแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สินและต้องการให้ทนายความช่วย ขอให้ท่าน
พิจารณาตัวท่านเองด้วยว่ามีกำลังเพียงพอที่จะว่าจ้างหรือไม่ การที่ท่านเข้าไปในเว็บกฎหมาย
และเว็บที่ไม่มีนักกฎหมายประจำเว็บ และเขียนกระทู้ถามปัญหาต่างๆ ของท่าน และท่านก็มัก
จะถามถึงอัตราค่าจ้างว่าความ เพื่อเปรียบเทียบกับทนายความคนอื่นๆ ว่าจะจ้างทนายคนไหน
ที่ให้ราคาถูกๆ หรือว่าความให้ก่อนและเก็บเงินที่หลัง ขอให้คิดใหม่ควรเลือกดูผลงานและ
ความสามารถจะดีกว่า เว็บไหนที่ผู้ตอบกระทู้ตอบแบบเคยไปถามนักกฎหมายมาแล้วและเอา
มาเขียนเพื่อแสดงความอวดรู้กฎหมาย ขอให้พิจารณาด้วยบ้านครั้งเขาอาจจะบอกไม่หมด
เพราะผู้เขียนไม่รู้กฎหมายจริง แต่อยากมีเพื่อนมากกว่า

  การจะหาทนายความที่รับคดีถูกๆ นั้นก็เป็นผลดีกับท่านและเป็นสิทธิท่านควรทำเพื่อ
ประหยัดค่าใช้จ่ายในขณะที่เป็นหนี้และกำลังจะหาทางแก้ไขอยู่ จึงขอเตือนไว้ว่า การที่ท่าน
พยายามหาทนายความถูกๆ ท่านอาจจะไม่ได้รายละเอียดของงานทางคดีมากนัก เพราะท่าน
มั่วแต่อยากคิดจะได้ราคาถูกๆ จนลืมนึกไปว่า ทนายที่ท่านจะว่าจ้างนั้น สามารถดำเนินการ
ให้ท่านตามวัตถุประสงค์ของท่านให้สำเร็จได้หรือไม่

โดยทั่วไปแล้วทนายความที่จะรับว่าความในปัจจุบันจะคิดค่าวิชาชีพว่าความประมาณ
๑๐,๐๐๐ บาท (ขั้นต่ำ) ส่วนค่าธรรมเนียนศาล และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ท่านจะต้องเป็นผู้ออกเอง
ส่วนใครจะคิดค่าวิชาชีพต่ำกว่านี้ก็อาจจะมีบ้าง แต่ข้อสำคัญที่สุดคือท่านต้องรู้ความคืบหน้า
ในคดีที่ท่านได้มอบให้ไปดำเนินการ ถ้าท่านจ้างทนายความและไม่รู้ความคืบหน้าในการ
ดำเนินการเลย  เมื่อท่านแพ้คดีท่านอาจจะไม่รู้เลยว่าที่แพ้คดีนั้นเกิดขึ้นเพราะสาเหตุใด
และจะมีทางแก้ไขได้อย่างไร ถ้าเป็นเช่นนี้เท่ากับว่าท่านจ้างทนายความมาแล้วก็เหมือน
กับไม่ได้จ้างทนายความเลยเสียเงินไปฟรีๆ

ขอเตือนอีกอย่าง การตกลงว่าจ้างทนายความ ท่านควรตกลงให้เป็นสัญญาว่าจ้างให้ถูก
ต้อง และในการตกลงนั้นท่านต้องบอกกับทนายความด้วยว่า ให้ฟ้องคดีหรือต่อสู้คดีจนถึง
ศาลฎีกา หรือจนถึงที่สุดตามกฎหมาย ถ้าทนายความยอมตกลงตามที่คุณบอกนี้ ก็มอง
ได้ว่าทนายความผู้นั้นอาจมีหลักกฎหมายประจำใจ (แต่อาจไม่เสมอไปก็ได้) อย่างน้อย
ท่านก็ยังมั่นใจได้ว่า คดีของท่านต้องสู้ถึงศาลฎีกาแน่นอน

ส่วนเรื่องที่จะทำสัญญาแบบไหนเพื่อให้ท่านรู้ว่า ทนายความที่ท่านว่าจ้างมานั้นดำเนิน
การอย่างไรไปบ้าง และทำอย่างไรให้ทนายความผู้นั้นต้องแจ้งผลดำเนินการให้ท่านทราบ
เองโดยที่ท่านไม่ต้องรอให้คดีเสร็จก่อน ให้ติดต่อเข้ามาที่นี่ จะมีแบบสัญญาว่าจ้างทนายความ

ดังนั้นท่านที่ต้องการหาทนายความและไปลงประกาศ หรือสอบถามเรื่องค่าว่าความก่อน
ขอแนะนำเป็นสิ่งที่ไม่สมควรทำ เพราะทนายความ ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าท่านมาเพรียงเพื่อสอบ
ราคาเพื่อนำไปเปรียบเทียบเท่านั้น ถ้าท่านเจอทนายหรือนักกฎหมายบางคนรู้ทันเขาจะ
เรียกค่าว่าความสู้เป็นหลักแสน นั่นหมายความว่าเขารู้ชั้นเชิงท่านแล้ว และไม่อยากที่จะรับ
ว่าความให้ท่าน ถ้าจะรับจริงๆ ท่านต้องมีเงินแสนจริงๆ ถึงจะรับ

นักกฎหมาย ทนายความ

สมาชิกหลายท่านโทรปรึกษานักกฎหมาย หรือทนายความ ในอินเตอร์เน็ตในหลายเว็บๆ
เวลาที่จะให้ทนายความดำเนินการ ทางกฎหมาย ขอให้พิจารณานักกฎหมายผู้นั้นให้ดีที่สุดเมื่อ
ตัดสินใจแล้วจงมอบความไว้ใจทนายความผู้นั้น

แต่จงระวัง ถ้าเว็บไหนที่มีทนายความหรือนักกฎหมายที่ตอบคำถามในเว็บที่ของตัวเอง
หรือส่งอีเมล์มา หรือโทรไปหาท่านสมาชิก โดยที่ท่านไม่ได้ติดต่อไปและเขาพูดเสนอตัวจะ
ดำเนินการให้กับท่านสมาชิกโดยไม่คิดค่าวิชาชีพใดๆ เพียงแต่ขอให้ท่านสมาชิกออกค่าใช้
จ่ายในการเดินทาง และค่าฤชาธรรมเนียมศาล ให้สันนิฐานไว้ก่อนว่าอาจมีอะไรๆ ซ่อนอยู่
ในใจทนายผู้นั้นก็ได้ เหตุผลเดียวคือ ตัวท่านสมาชิกไม่ได้ติดต่อไป แต่เขาเสนอตัวเข้ามา
ช่วยเองทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ค่าเหนื่อยอะไร (ค่าวิชาชีพ) ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ ตามหลักวิชา
ชีพนักกฎหมาย หรือทนายความ . เพราะอยู่ดีๆ คนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนจะมาช่วยให้ฟรีๆ
ดูตัวอย่างที่นี่จะได้ระวังตัวเอาไว้ ลักษณะแบบนี้ ในหมู่นักกฎหมายเรียกว่า " ค้าความ "
แสดงตัวเป็น "พ่อพระ แต่ในใจคิดจะเคลมไก่วัด" คือหาประโยชน์

ถ้าท่านเป็นผู้ติดต่อไปเองทุกครั้ง และสอบถามปัญหาของท่าน และข้อกฎหมายจนมั่นใจ
และก็ตกลงใจเองโดยไม่มีการชักจูงจากนักกฎหมาย หรือทนายความท่านนั้นต่อมานัก
กฎหมายหรือทนายความท่านนั้นติดต่อท่านเพื่อดำเนินการใดๆ ในส่วนที่ท่านตกลงแบบนี้
ไม่ถือว่าเป็นการ "ค้าความ" ไม่ผิดหลักวิชาชีพนักกฎหมาย

ทนายความเจ้าหนี้ที่ชอบทวงหนี้ ยึดทรัพย์ลูกหนี้ แบบที่ดำดิน (ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย)
ชอบโทรไปขู่ลูกหนี้ที่ทำงาน (ลองไปฟังเสียงดอาจเป็นท่านก็ได้) ู ควรระวังตัวเอาไว้บ้างเพราะ
ท่านกำลังทำให้ลูกหนี้เดือนร้อน ถ้าเจอลูกหนี้ใจเด็ดหาทนายความมาย้อนเกร็ดท่านเมื่อใด
ตั๋วทนายความจะกระเด็น (หมดอาชีพว่าความเชียวนะ ท่านก็รู้ดี เราก็รู้ดี) และตัวเจ้าหนี้ที่
จ้างท่านจะเดือนร้อนตามไปด้วย ขอให้ทำตามกฎหมาย ทวงไม่ได้ก็บอกเจ้าหนี้ให้ไปฟ้องคดี
อย่าพยายามใช้วิธีนอกกฎหมาย ถ้าโดยแล้วจะเสียเงินเสียเวลา

ไม่เคยเป็นลูกหนี้

จงอย่าคิดที่จะเป็นลูกหนี้บัตรเครดิต หรือสินเชื่อ ที่อนุมัติเงินง่ายๆ ตามที่พวกนี้โฆษณา
ทางสื่อโฆษณาต่างๆ เป็นอันขาด ถ้าขืนเชื่อและทำเรื่องขอบัตรเครดิต หรือขอสินเชื่อเมื่อไร
ถือได้ว่าวันนั้นเป็นวันที่เริ่มต้นจะมีความทุกข์ จะมีคนมาทวงหนี้ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน ดังที่
สมาชิกหลายท่านในกระดานข่าวกฎหมาย ๑ และกฎหมาย ๒ โดนมาแล้ว ทำงานได้เท่าไรก็
ใช้เท่านั้น มีเงินเหลือก็เอาไปฝากธนาคารเอาไว้กินต้อนแก่ หรือเอาไว้เป็นค่าเล่าเรียนลูกจะ
ดีกว่า ถ้าจะให้ดีก็ต้มมาม่ากินรับรองจะมีเงินใช้ในวันข้างหน้า

เจ้าหนี้

ส่วนใหญ่แล้วสถาบันการเงินต่างๆ บัตรเครดิต สินเชื่อ พยายามที่จะหาเงินฝากจากคนทั่วไป
แล้วเอาเงินที่ฝากนั้นมาปล่อยให้ผู้ประกอบธุรกิจกู้ยืม เพื่อให้ได้ส่วนต่างของดอกเบี้ยที่จะเป็น
ผลกำไร แต่ด้วยความหัวใสของนักธุรกิจต่างชาติ รวมหัวกับพวกเศษรฐีเห็นแก่ได้ และนัก
กฎหมาย จะทำธุรกิจการเงินที่ เรียกว่า "งูกินหาง" หรือที่รู้จักกับทัวไปว่า (เครดิต หรือบัตร
เครดิต )
คือให้คนทั่วไปกู้ยืมเงินแบบง่ายๆ โดยแบ่งเป็นหลายระดับ
ระดับ ๑ จะให้กู้ยืม ( เครดิต ) จำนวนไม่มากเพื่อดูว่าผู้ที่รับเครดิตมีศักยภาพในการใช้คืน
หรือไม่ ถ้ามีการใช้คืนดี ก็จะเพิ่มวงเงินให้อีก
ระดับ ๒ จะเพิ่มวงเงินให้มากกว่าระดับแรกเป็นสอง หรือสามเท่าตัว และดูว่าผู้ที่รับเครดิตมี
ศักยภาพ ในการใช้คืนหรือไม่ ถ้ามีการใช้คืนเงินดี ก็จะเพิ่มวงเงินให้อีก
ระดับ ๓ จะเพิ่มวงเงินให้มากกว่าระดับแรกเป็นสอง หรือสามเท่าตัว และดูว่าผู้ที่รับเครดิตมี
ศักยภาพในการใช้คืนหรือไม่ ถ้ามีการใช้คืนเงินดี ก็จะเพิ่มวงเงินให้อีก แต่ถ้าดู
แล้วว่าการส่งคืนเงินนั้นเริ่มติดขัด ( ส่งคืนบ้าง ไม่ส่งคืนบาง ) ก็จะระงับเครดิต

วิธีระงับเครดิตจะเริ่มโดยบอกกับลูกหนี้ว่า " ช่วงนี้มีโปรโมชั่นพิเศษ ลูกหนี้ใช้เงินคืนครบ
เต็มจำนวน ก็จะได้รับเครดิตใหม่เพิ่ม ขอให้ลูกหนี้รีบชำระเงินเดิม เพื่อที่จะรับโปรโมชั่นใหม่
ถ้าลูกหนี้หาเงินมาใช้หนี้เดิมได้หมด ก็จะได้โปรโมชั่นใหม่ไป ถ้าหาเงินมาใช้ไม่ได้ก็จะหยุด
เครดิตทันที่ " การออกโปรโมชั่นใหม่ของสถาบันการเงิน หรือบัตรเครดิต หรือระบบโทรศัพท์
จะมีอุบายซ่อนอยู่เสมอ เรียกง่ายๆว่าได้อย่างหนึ่ง ก็ต้องเสียอีกอย่างหนึ่ง "

เจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบก็เช่นกัน จะมีวิธีการโกงแบบหน้าด้านๆ คือเอาสัญญากู้ยืมที่หาซื้อได้
ทั่วไปมาให้ผู้กู้ลงชื่ออย่างเดียวแต่ยังไม่ได้ กรอกตัวเลขยอดเงินที่กู้หรือข้อความใดๆ ( เจ้าหนี้
จงระวังเอาไว้คุกจะมาเยือนถึงที่บ้าน และทนายความที่รับฟ้องคดีให้พวกเจ้าหนี้แบบนี้ ถ้าไม่
เก่งจริงๆ จงระวังตั๋วว่าความจะกระเด็น และติดคุกอีกต่างหาก )

ขอเตือนเจ้าหนี้เอาไว้ อย่าทนงตัวคิดว่ามีเงิน มีความรู้ มีทนายความ แล้วจะได้เปรียบคนอื่น
เสมอไป กฎหมายยังมีตาที่จะไม่ให้พวกท่านโกงคนอื่นได้ง่ายๆ ถ้าลูกหนี้ยกเอาหลักกฎหมาย
ที่ได้เปรียบเจ้าหนี้ขึ้นมาสู้บ้าง ก็จงยอมรับเสียโดยดีว่า ตัวเองไม่ได้เก่งไปเสียทุกเรื่อง ทนาย
คู่ใจท่านก็เหมือนเหลือบเกาะกินเลือดท่าน

ผู้มีเงิน มีอำนาจ มีบารมี

ถ้าผู้ใดมีสามสิ่งนี้อยู่ในตัว ผู้นั้นก็ได้ชื่อว่าขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิตหรือธุรกิจ ไม่มีใครหรือ
กฎหมายใดๆ ที่จะเอาผิดทางกฎหมายได้ (เงิน บารมี อำนาจ) นี้ไม่ใช่ว่าจะมีกันได้ทุกคน
เพราะทั้งสามสิ่งนี้ มีทั้งคุณทั้งโทษอยู่ในตัว จึงขอเตือนทุกท่านไว้เพื่อไม่ให้หลงอยู่ในวังวน
สามอำนาจนี้ อำนาจทั้งสามนี้ไม่มีผู้ใดถือเอาไว้ได้ตลอดชีวิตหมดสามสิ่งนี้เมื่อไร ชีวิตครอบ
ครัวความสุขที่เคยมีก็หมดความหมายตามไปด้วย

จากประสบการณ์ที่พบปะพูดคุยหรือให้ความช่วยเหลือสมาชิกหลายร้อยท่าน ผมจะขอเตือน
ทุกคนให้รู้ว่า " ช่องว่างของกฎหมายถ้าใช้ไม่ถูกวิธีก็เป็นโทษกับผู้ใช้อย่ามหัน ถ้าใช้ให้ถูกวิธีก็
เป็นคุณอนันต์ "
คนที่คดิว่าตัวเองมีทั้งสามสิ่งอยู่ในตัวเมื่อ เมื่อนั้นความทุกข์จะเข้ามาเยือน
ไม่ว่าท่านจะเป็นนักธุรกิจ นักการเมือง ข้าราชการ พ่อค้า มหาโจร เงินไม่ใช่ท่านให้มีความ
สุขที่แท้จริง อำนาจไม่ช่วยให้ท่านเป้นผู้ยิ่งใหญ่ บารมีไม่ช่วยให้ท่านเป็นเทวดาไปได้
สามอำนาจนี้มารวมกันเมื่อใดความวิบัติจะมาเยือนท่านและครอวครับ "ไม่เชื่อและคอยดู"

กฎหมาย

เป็นสิ่งกำหนดกฎกติกาการอยู่ร่วมกันในสั่งคมนี้ แต่ผู้ออกกฎหมายไม่สามารถที่จะกำหนด
บทบัญญัติให้ตายตัวได้ เพราะการพิสูจน์ความจริง หรือความผิดนั้นมีข้อจำกัดที่ทำได้อยาก
แต่ผู้ออกกฎหมายมาใช้บังคับมีจุดประสงค์เพื่อไม่ให้มีการเอารัดเอาเปรียบในสังคมนี้ นักกฎ
หมายทั้งหลายจึงมองว่า "กฎหมายมีสองด้าน มีทั้งด้านดี และด้านไม่ดี ขึ้นอยู่กับที่จะเอากฎหมาย
ไปใช้ใน ด้านไหนเท่านั้น ใช้ดีก็เป็นคุณ ใช้ไม่ดีไม่ถูกต้อง ก็เป็นโทษ "

ผู้ที่เข้ามาศึกษาหาความรู้ใน S detective & lawter หรือในเว็บกฎหมายอื่นๆ หรือโทรปรึกษา
ก็ตาม ขอให้รู้ว่าขั้นตอนและกระบวนการของกฎหมายนั้น ผู้ใช้ต้องเรียนรู้กฎหมายมาพอสมควร
หรือจบทางนิติศาสตร์มาบ้างถึงจะเข้าใจและนำไปใช้ให้เกิดผลได้ แต่ถ้าผู้นำไปใช้รู้เพียง
เฉพาะปัญหาของท่านจะแก้ไขอย่างไร ก็ขอให้แก้ไขเฉพาะปัญหานั้น หรือทางที่ดีที่สุดควรให้นัก
กฎหมายที่ท่านปรึกษา เป็นผู้ดำเนินการให้จะดีที่สุด " ใครรู้กฎหมายมากและใช้ให้เป็นประโยชน์
ก็ย่อมได้เปรียบคนที่รู้กฎหมายน้อย "

นักสืบ

ถ้าท่านคิดว่าทนายความมีความหมาย ขอให้เข้าไปดูที่นี่ และจะรู้ว่าคดีที่สำเร็จนั้นเกิดจากทนาย
ความหรือนักสืบ กระบวนการในศาลกับกระบวนการนอกศาลมีความแตกต่างกันมา ถ้าใครคิด
ว่าทนายที่ว่าความในศาลเก่งกว่านักสืบที่หาพยานหลักฐานก็ขอให้จ้างทนายคนนั้นและบูชาเขาให้
ยิ่งใหญ่กว่าเทวดา

ทุกคดีถ้าไม่มีพยานหลักฐานให้ศาลรับฟังได้ รับรองล้านเปอร็เซ็นแพ้คดีแน่นอน ลองไปฟ้อง
คดีชนะกันด้วยพยานหลักฐานแบบนี้ (ลองไปฟังเป็นตัวอย่าง) >>>>

เสียงที่ท่านฟังนั้นเป็นฝีมือนักสืบที่บุกเข้าไปถึงถิ่นเจ้าหนี้ โดยใช้หลักว่า " ไม่เข้าถ้ำเสือ แล้วจะ
ได้ลูกเสือ "
ทนายที่ร่วมทีมของผมยังไม่กล้าทำเลย แต่พอให้ยินเสียงเจ้าหนี้ยอมรับในเทปเท่านั้น
ทนายบอกได้เต็มปากว่า " พี่ครับคดีนี้ชนะแน่นอนล้านเปอร์เซ็น " ถ้าท่านฟังแล้วคิดว่าคดีนี้แพ้
ขอบอกได้อย่างเต็มปากว่าท่านต้องหูตึงแน่นอน

นักธุรกิจ

ไม่ว่าท่านจะเป็นนักธุรกิจใหญ่โตแค่ไหนมีเงินมากเพียงใด ถ้าท่านยังเป็นหนี้ธนาคารอยู่
เพราะกู้เงินมาบริหารธุรกิจ จงระลึกอยู่เสมอว่าท่านจะเป็นยาจกตกยากสักวันแน่นอน . จงหา
ทางป้องกันทางกฎหมายเอาไว้แต่บัดนี้มิฉะนั้นจะไม่มีทางป้องกันได้ เตียมตัวเอาไว้แต่วันนี้
ไม่สายนะ จงอย่าคิดว่าทุกวันนี้ทำธุรกิจมีเงินเป็นล้านๆ ไม่มีวันจนลงได้ " สักวันน้ำตาจะเช็ด
หัวเข่า "

นายจ้าง

ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจ เจ้าของบริษัทหรือกิจการค้าขาย หัวหน้าหน่วยงานราชการ ที่ชอบ
เอาพนักงานบัญชี พนักงานการเงิน เลขานุการ เป็นภริยาน้อย โดยเสนอตำแหน่งและเงิน
เดือนสูงๆ ให้ จงระวังเอาไว้นะ ถ้าพนักงานผู้นั้นมาปรึกษาเราเมื่อไร รับรองได้ว่าคุกอาจ
มาเยือนถึงที่บ้านและที่ทำงานได้ และอาจต้องเสียเงินเป็นแสนๆ หรือล้านๆ ให้กับพนักงานผู้นั้น
เพราะว่าสักวันหนึ่ง นายจ้างเหล่านี้ก็จะพยามบีบให้ลูกจ้าหรือพนักงานที่เอาเป็นภริยาน้อยออก
จากงานโดยใช้กลอุบายต่างๆ

ลูกจ้าง พนักงาน ที่ยอมเป็นภริยาน้อย

โดยส่วนใหญ่แล้ว พนักงานบริษัทที่หน้าตาดี รูปร่างสวย ย่อมเป็นที่ต้องการของเจ้าของบริษัท
( เฉพาะบางที่เท่านั้น ) ผู้บริหารมักจะเสนอในสิ่งที่หลายคนไม่อาจปฏิเสธได้ เช่น เงินเดือนสูง บ้าน
รถยนต์ หรือไปเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะให้เป็นผู้ถือหุ้นในกิจการ และช่วยออกหน้าบริหาร
โดยมอบตำแหน่งสูง จงระวังเอาไว้ให้ดีนะ ไม่ใช่แค่เสียตัวให้ร่วมเพศเท่านั้น อาจจะเสียอนาคต
เป็นหนี้เป็นสินโดยไม่รู้ตัว ถ้าคุณถูกบีบให้ออกยังไม่พอ แถมยังไม่มีอะไรติดตัวไปอีกด้วย แม้แต่
บ้าน หรือรถยนต์ ( มีดารานางแบบเป็นข่าวแล้วนะ )

ถ้าคุณเป็นภริยาน้อยอยู่จงหาทางดำเนินการป้องกันเอาไว้เสียแต่เนินๆ มิฉะนั้นจะนั่งน้ำตาตก
โดยที่ไม่มีใครช่วยได้ เพราะตอนที่คุณมีประโยชน์ คุณก็จะได้ทุกอย่าง เงินเดือน ฐานะความเป็นอยู่
ความมีหน้ามีตา แต่ตอนหมดประโยชน์คุณจะเหมือนกับลูกแมวข้างทางที่ไม่มีใครสนใจ เตียมตัว
ไว้เสียแต่วันนี้จะได้มีอานาคตที่ดีในวันหน้า ไม่ต้องเสียรู้เจ้าของกิจการ

นายธนาคาร & สถาบันการเงิน

" เหนือฟ้า . ยังมีฟ้า " ธนาคารจะมีระบบกู้ยืมเงินตามที่กฎหมายกำหนดอยู่แล้วขอเพียงท่านให้
โอกาศลูกหนี้ได้ลืมตาอ้าปากในยามที่เกิดวิฤติทางธุรกิจหรือส่วนตัว ลูกหนี้ทุกคนไม่มีคนไหนไม่
อยากจะใช้หนี้ที่กู้ยืมมา แต่ถ้าท่านเห็นว่าต้องเอากฎหมายมาบังคับลูกหนี้ให้ชำระหนี้ จงระวังให้ดี
ลูกหนี้ลุกขึ้นมาต่อสู้เจ้าหนี้เมื่อไร ท่านอาจสูณเงินที่ให้กู้นั้นก็ได้ สถาบันการเงินที่เที่ยวโฆษณา
ให้คนมาใช้บัตรเครดิตเมื่อผู้ใช้บัตรเครดิตไม่ชำระเงิน ก็จะให้พนักงานหรือสำนักกฎหมายโทร
ทวงหนี้ หรือใช้วิธีทวงหนี้ที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก ( ทวงแบบชอบขู่ถึงที่ทำงาน) ก็จงระวังเอาไว้เช่นกัน
อย่าเชื่อพวกรับจ้างทวงหนี้มาก ความเดือดร้อนจะมาถึง ( เสียทั้งชื่อเสียง สถาบันการเงิน และชื่อ
เสียงส่วนตัว อาจจะต้องเป็นหนี้ลูกหนี้ตัวเองก็ได้นะ )
" เหนือฟ้า ยังมีฟ้า " ท่านอย่าคคิดว่าคงไม่มี
ลูกหนี้หน้าไหนกล้าพอที่จะจ้างทนายความมาสู้คดีกับท่าน ( สุนัขจนตรอก มันยังสู้ ) ลูกหนี้หน้ามืด
ลุกขึ้นสู้เมื่อไรแล้วจะรู้สึก ( เอาเงินมากองแทบไม่มีความหมายเลยท่านนายแบงค์ทั้งหลาย )

ทนายความ

จงให้เกียรติทนายความและนักกฎหมายทุกคนที่ท่านไปปรึกษา เพราะเขาอาจช่วยท่านให้พ้น
ทุกข์พ้นปัญหาพ้นหนี้สินได้ ซึ่งเป็นทางรอดทางเดียวที่คุณจะหาได้ นักกฎหมาย ทนายความต่าง
เรียนรู้กฎหมายมาด้วยความยาก และจะต้องหาประสบการณ์เป็นเวลาหลายปีกว่าจะช่ำชองชำนาญ
และคดีทางกฎหมายก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวเท่านนั้น นักกฎหมาย หรือทนายความ ไม่มีส่วนได้เสีย
ด้วย เพียงแต่มีส่วนที่จะช่วยให้ท่านรอดพ้นวิกฤิตในกระบวนการของกฎหมายได้ "หรืออาจจะไม่
รอดก็ได้ถ้าเจดมือใหม่หัดขับ"

เมื่อท่านมีปัญหากฎหมายควรไปปรึกษากับนักกฎหมาย หรือทนายความจะดีที่สุด ( สำนักกฎ
หมายที่ไหนก็ได้ )
แต่อย่าไปปรึกษาพวกทาแนะ หรือคนทางเจ้า เสด็จพ่อ เสด็จแม่ เสด็จปู่ หรือ
พวกที่แสดงอวดรู้อวดในกระดานถามตอบทั่วไป และไม่ได้จบนิติศาสตร์โดยเด็ดขาด มีแต่จะเสีย
เงินฟรี และเสียเวลาโดยใช่เหตุ

สิ่งที่ท่านควรรู้คือ ทนายความมีอำนาจในกระบวนการยุติธรรม เหมือนและเหนือพนักงาน
สอบสวน หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพราะพนักงานสอบสวนหรือตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่สามารถว่า
ความเองได้ (จะมีก็แต่เฉพาะที่กฎหมานรับรองให้ ซึ่งก็น้อยมา ) ส่วนใหญแล้วจะให้อัยการเป็น
ผู้ฟ้องเอง ดังนั้นทนายความก็อยู่ในระดับเดียวในกระบวนการยุติธรรม คือ ผู้พิพากษา อัยการ
ทนายความ ส่วนตำรวจหรือพนักงานสอบสวนมีหน้าเพียงสืบสวน สอบสวน รวบรวมพยานหลัก
ฐานในคดีเสนออัยการสั่งหรือฟ้องเท่านั้น

   ดังนั้นทนายความ คือผู้ที่ท่านไว้ใจได้ดีที่สุด ในยามที่ไม่สามารถพึ่งตำรวจในกระบวนการ
ทางกฎหมายได้

ผู้ที่เป็นนักกฎหมายหรือทนายความเจ้าของสำนักงานควรที่จะต้องดำเนินการงานให้กับลูกความ
ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ตามหลักพระราชบัญญัติทนายความ และทนายความที่รับว่าความ
หรือ เป็นทนายขอแรงศาล(บางท่าน)ที่ประพฤติตนไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ตามหน้าที่และหลักวิชาชีพ
ควรระวังไว้เช่นกัน ไม่ใช่แค่ตั๋วว่าความกระเด็นเท่านั้น แต่คุกอาจมาเยือนถึงที่บ้านได้ทุกเวลา
( มีหลายท่านโดนมาแล้ว " ผมมีหมายจับทนายความจอมโกงอยู่ " ว่างๆ มาดูว่าใช่ตัวท่านหรือเปล่า
จึงขอเตือนทนายความและนักกฎหมายเหล่านั้น )

ข้าราชการ

อย่าคิดว่า " รับราชการแล้วจะไม่มีใครทำอะไรได้ " เดี๋ยวนี้สภาพการต่างออกไปจากเมื่ออดีต
ที่ " ข้าราชการ เป็นใหญ่กว่าราษฎร " พวกที่คิดว่ารับราชการตำแหน่งใหญ่โต มีลูกน้องมากมาย
มีเพื่อนฝูงญาติพี่น้องเป็นทนาย อัยการ ผู้พิพากษา ตำรวจ ทหาร นักการเมือง นักเลง มือปืนคิดที่
จะคอรัปชั่นกินบ้านโกงเมือง ขอเตือนเอาไว้ว่าเงินที่โกงกินมานั้น สักวันเงินนั้นจะย้อนกลับมา
ลงโทษตัวเองและครอบครัว ใครที่ชอบอ้างว่า " เงินเดือนข้าราชการน้อย ไม่พอกิน " คนที่อ้าง
แบบนี้ผมมองว่าเป็นที่ชอบรีดไถ คอรัปชั่น โกงบ้านกินเมือง ที่ผมพูดได้เต็มปากแบบนี้ เพราะ
เมื่ออดีตผมก็รับราชการมาก่อน เงินเดือนสมันนั้ ๙๐๐ บาท ยังพอใช้ได้ตลอกทั้งเดือน (ถ้าไม่
เที่ยว ไม่ดื่มสุรา ไม่เล่นการพนัน
) สมัยนั้นค่าเงินไม่ต่างกับปัจจุบันนี้ ข้าวของก็แพงตามยุก
ตามสมัย ดังนั้นถ้าใครมาอ้างว่า " เงินเดือน ข้าราชการน้อย ไม่พอกิน " ผมถือว่าคนที่พูดเช่น
นั้นไม่ใช่คนดีที่จะรับราชการต่อไป ถ้ารัฐบาลเชื่อผมจัดให้มีสถานที่หนึ่ง (เป็นเกาะห่างไกล)
ถ้าข้าราชการคนไหน ถูกจับได้ว่าคอรับชั่นให้ย้ายไปอยู่ที่เกาะนั้น จนว่าจะได้สอบสวนเรื่องเสร็จ
ในระหว่างอยู่ที่เกาะก็ยังได้รับเงินเดือนเหมือนเดิม ถ้าให้ย้ายไปและไม่ยอมไปก็ให้ไล่ออกไป
เลย ถ้าทำแบบนี้ได้รับรองได้ว่า " คอรัปชั่นในวงราชการจะลดลงทันที่ " วิธีนี้เรียกว่า " แยก
คนชั่ว ออกจากคนดี "
ไม่ผิดรัฐธรรมนูนเรื่องสิทธิและ เสรีภาพของบุคคลด้วย ไม่รู้ว่าทำไม
รัฐบาลกี่ยุคกี่สมัยไม่มีใครคิดทำแบบนี้บ้าง อาจจะเป็นเพราะว่า ถ้าขาดข้าราชการที่คอรัปชั่น
ก็จะขาดฐานอำนาจ หรือฐานเสียงก็เป็นไปได้

ผมเคยรับราชการ มาแล้วย่อมเข้าใจดีว่า " จุดอ่อนของพวกที่คอรัปชั่นอยู่ตรงไหน " ถ้าเอา
จุดอ่อนนั้นมาใช่ให้เกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชนแล้ว บ้านเมืองเราจะมีแต่คนดีมี
คุณธรรม สังคมก็จะพึ่งพาอาศัยกันได้ .. การพนัน . ยาเสพติด . เด็กซิ่ง . นักเลง . โจร . ข่มชืน
รีดไถ . ซ่อง . โสเภณี . อื่นๆ ก็จะหมดไปจากสังคม ( คนที่ต้องการรับราชยังมีอีกมาก ถ้ามั่วแต่
เอาพวกเอาพ้องเหมือนทุกวันนี้ ก็ไม่มีทางแก้ปัญหาหลักของบ้านเมืองและสังคมนี้ได้ จะมัว
ไปง้อพวกข้าราชการขี้โกงนี้อยู่ทำไม )

ข้าราชการที่แท้จริงคือ " ผู้พิทักษ์และรับใช้ประชาชน " ไม่ใช่ผู้ที่หารายได้บนกองทุกข์ของ
ประชาชน ขอให้อยู่สำนึกไว้เสมอ สักวันหนึ่งผู้ที่อยู่สวรรค์เบื้องบนจะส่งคนมาปราบพวกข้า
ราชการเลวๆ ทุกระดับ

นักการเมือง

ผู้ที่จะเป็นนักการเมืองที่ดีจะต้องไม่คิดหาผลประโยชน์ให้ตัวเองหรือพวกพ้อง ต้องไม่คอรัปชั่น
และต้องกำจัดพวกคอรัปชั่น ไม่เอาข้าราชการที่ทำงานแรกกับตำแหน่งที่สูงขึ้นมาทำงานด้วย

หากนักการเมืองก่อนเข้ามาทำหน้าที่แบบซื้อเสียงหรือเข้ามาเพื่อหาผลประโยชน์ สักวันสวรรค์
เบื้องบนจะส่งคนลงโทษทั้งครอบครัว

ผู้มีอิทธิพล

นักการเมือง นักธุรกิจ คนค้าขาย ข้าราชการ (ไม่ว่าจะสีไหน) ที่ทำตัวเป็นนักเลง เอาเปรียบผู้อื่น
เห็นแก่ได้เห็นแก่ได้ มีคนกำลังจองมองพวก ท่านอยู่ ถึงวันนั้นเมื่อไรแล้วจะรู้ว่าสิ่งที่ท่านทำให้คน
อื่นเดือดร้อนทั้งครอบครัว และตัวเองเดือดร้องทั้งครับครัวบางจะไปโทษกฎหมายไม่ให้ความเป็น
ธรรมไม่ช่วยเหลือคนเดือดร้อน ( ก็ตัวท่านเอง เวลาทำให้คนอื่นเดือดร้อนยังไม่คิดถึงกฎหมายเลย
พยายามอยู่เหนือกฎหมาย มาตลอด )

" เกลือจิ้มเกลือ " เมื่อพวกท่านเป็นผู้มีอิทธิพลอยากอยู่เหนือกฎหมาย ผู้ที่จะมาปราบท่านก็จะอยู่
เหนือกฎหมาย อยู่เหนืออำนาจอิทธิพลกว่าผู้มีอิทธิพลและไม่กลัวใครหน้าไหน เมื่อคนผู้นี้มาถึงตัว
เมื่อไรคำว่า เจ้าพ่อ มาเฟีย ข้าราชการ นักเลง เด็กเส้น จะไม่มีให้เห็นอีกต่อไป จะเป็นเพียงตำนาน
ให้ญาติพี่น้องเท่านั้น

ธุรโกง

ไม่วาจะเป็น บริษัท,บริษัท( มหาชน) ,ห้างหุ้าส่วน( จำกัด ไม่จำกัด ),กิจการร่วมค้า,ห้างร้าน
ต่างๆ ถ้าท่านเป็นเจ้าของ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้น เพรียงท่านโกงค่าแรงงานหรือกดค่าแรงงาน หรือ
ไม่จ่ายเงินล่วงเวลาจ้างแรงงาน เท่านี้ก็เห็นได้แล้วว่า ตั้งใจที่จะโกงบ้านโกงเมืองโกงภาษี และ
ถ้ามีช่องโกงจนร่ำรวย เพราะขนาดคนทำงานที่เป็นมือเป็นท้างช่วยหาเงินแท้ๆ ็ยังโกงเอาได้
แม้เงิน เล็กๆ น้อยๆ นับประสาอะไรกับการที่จะไม่ไปโกงคนอื่น

และโดยเฉพาะพวกเจ้าของธุรกิจ หรือกิจการที่ชอบเอาลูกจ้าง (ร่วมเพศ) พวนนี้ถือว่าสุด
ยอดของความโกง ไม่ใช่แค่โกงเอาเงินเท่านั้นมันยังเอาลูกจ้าง (หาความสุขทางเพศ) สักวันคุก
จะมาเยือนถึงที่นอน

ผู้ไม่มีชื่อ

สักวันเมื่อผู้ใหญ่รู้แจ้งเห็นจริงว่าคนที่อยู่รอบตัวที่ส่งยิ้ม ส่งส่วย ส่งความสบายให้ เป็นพวกที่
เห็นแก่ได้เห็นแก่ตัว เป็นโจร ที่คอยดัก ปล้น ดักหาทางเอาเปรียบคนส่วนรวมเมื่อใด เมื่อนั้นผู้
ที่ไม่มีชื่อจะเกิดและถูกส่งมาเพื่อทำให้สังคมนี้ดีขึ้น

เมื่อใกล้จะถึงวันสุดท้ายแห่งความเป็นหนึ่ง เขาจะรู้ว่าเงินทองที่ได้จากพวกที่เอามาให้ และเก็บ
เอาไว้ให้ลูกหลาน เป็นเงินที่คนได้รับทุกข์สาบแช่เอา วันนั้นแหละเป็นวันที่รู้แจ้งเห็นจริง

" ผู้ไม่มีชื่อ " จะมาเพื่อจัดการกับพวกโกงกินประเทศ ข้าราชการเลวๆ นักธุรกิจชั่วๆ ผู้มีอิทธิพล
มาเฟีย นักเลง พร้อมทั้งครอบครัวแบบตัดรากถอนโคน พร้อมยึดทรัพย์ที่ได้เอามาเป็นของแผ่นดิน

ข้อความนี้ผู้ที่จะเข้าใจได้แท้จริง คือผู้ที่จะเป็นผู้สร้าง " ผู้ไม่มีชื่อ " เท่านั้น ขอให้ทุกท่านอดใจ
รอสักนิด วันนั้นจะต้องมีแน่นอนไม่นานเท่าใด

จะทำอะไรขอให้ปรึกษาผู้รู้กฎหมายหรือทนายความปลอดภัยที่สุด
ยินดีให้คำปรึกษากับทุกคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เขียนข้อความได้ที่นี่ >>

ขณะนี้มีคน online อยู่ 38 ท่าน