แนะนำตัวให้เพื่อนๆ รู้จัก
S detective & lawyer ตั้งเมื่อปี พ.ศ ๒๕๔๑ ช่วงนั้นประเทศไทยเกิดวิกฤติเศรษฐกิจฟองสบู่
ประวัติ
ผู้ก่อตั้ง สิบตำรวจเอก สุรพลกระแจะจันทร์ จบการศึกษา
- โรงเรียนตำรวจ
- โรงเรียนตำรวจตะเวนชาแดน (กก.ฝ.๔)
- โรงเรียนนายสิบสืบสวน
- นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช
ประสบการณ์
อาสาสมัครต่อต้านอาญญกรรม สถานีตำรวจนครบาลพระโขนง ปี ๒๕๑๕
เริ่มรับราชตำรวจ ปี พ.ศ. ๒๕๒๑ สังกัดกองบังคับการตำรวจป่าไม้ ถึงปี พ.ศ.๒๕๓๖
เป็นที่ปรึกษากฎหมาย เอส เอส วูด ไดนามิค
ผู้จัดการบริษัท ไทยนิยม จำกัด สาขาคลองตัน ปี พ.ศ. ๒๕๓๗ - ๒๕๔๑
ฝ่ายสินเชื่อโรงงานน้ำตาลราชสีมา ปี พ.ศ. ๒๕๔๑ - ๒๕๔๒
ปัจจุบัน
ผู้จัดการสำนัก เอส นักสืบ และนักกฎหมาย
ที่ปรึกษากฎหมายประจำตัว
- ท่านพรทิพย์ แสงทองสุข ( สมาชิกสภาจังหวัดนครราชสีมา อำเภอเมือง )
- ท่านสุชาติ ภิญโญ ( สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต ๕ นครราชสีมา)
- และสมาชิก VIP ของ ( S detective & lawyer )
ทีมงาน
นายสุรพล กระแจะจันทร์ กฎหมาย และสืบสวน
นายสิทธิศักดิ์ แก้วสิงห์ คดี
นายปองพล ประทุมวงค์ คดี
ความเป็นมา
จากการที่คุณปูรับราชการรถไฟ คุณพ่อรับราชการตำรวจ และประสบการณ์ที่เริ่มเป็นสายสืบ
ตั้งแต่อายุ ๑๓ ปี จนเข้ารับราชการตำรวจ เรียนจบกฎหมาย เป็นผู้บริหารบริษัทเอกชน ฝ่ายสิน
เชื่อ ที่ปรึกษานักการเมือง ทำให้พบเห็นเหตุการณ์มากมาย เห็นการอารัดเอาเปรียบในวงราชการ
ในวงการธุรกิจ ในแวดวงการเมือง เห็นผู้คนที่ถูกกดขี่ข่มเหงจนมีคำพูดที่ติดปากว่า " คนจน
ก็ยิ่งจน คนรวยก็ยิ่งรวย "
สิ่งสำคัญที่เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาคนจน คนตกงานมีมาก ชาวไร่ชาวนาขายผล
ผลิตไม่ได้ราคา เกิดจากวิฤตเศรษฐกิจ ๒๕๔๑ ที่เหล่าบรรดานายทุนทั้งหลายต่างยอมเป็น
เบี้ยล่างนักกฎหมายเมืองนักธุรกิจต่างชาติ จนมีการออกกฎหมายมาเพื่อจะช่วยพยุงสถานะบ้าน
เมืองขณะนั้น แต่กฎหมายที่ออกมากลับเป็นดาบสองคมที่ทำให้คนทำงาน คนค้าขาย ชาวไร่ชาวนา
กลับเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัวและไม่มีโอกาสตั้งตัว บางคนถึงกับสิ้นเนื้อบรรดาตัว บางคนต้องตกงาน
บางคนถึงกับบ้านแตก บางคนฆ่าตัวตายทิ้งภาระให้เด็กตาดำๆ ที่ไม่รู้เรื่องต้องเผชิญโชคตารับกรรม
เป็นปัญกาสังคม บางคนหันไปกระทำผิกกฎหมายค้ายาบ้า ค้าประเวณี ค้าของผิดกฎหมาย แต่มีคน
อยู่กลุ่มหนึ่งกลับได้ผลประโยชน์จากวิฤตเศรษฐกิจ เช่น พวกนักการเมือง นายธนาคารที่หนีไปแล้ว
ข้าราชการที่ร่วมคอรับชั่นกับเอกชน ทั้งที่รู้ว่าร่วมกันทำให้บ้านเมืองเกิดวิฤตแต่ไม่มีใครสามารถ
ที่จะเอากฎหมายไปลงโทษพวกนี้ได้ และพวกนี้ก็อยู่สุขสบายใช้เงินบนกองทุกข์ของชาวบ้านตาดำๆ
จากผลของกฎหมายที่ออกมาในช่วงวิกฤติ ทำให้เกิดช่องว่างกฎหมาย มีธุรกิจใหม่เกิดขึ้นมาปัจจุบัน
เรียกันว่า " บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล " เป็นที่รู้ๆ กันอยู่ธุรกิจประเภทนี้เป็นการให้เครดิต
สินเชื่อกับบุคคลทั่วไป โดยจ่ายเงินให้ก่อนแต่ผ่อนใช้หนี้ที่หลัง โดยยึดหลักจากผู้ที่มีเงินเดือน
ประจำ หรือมีธุรกิจส่วนตัว แต่ผู้ใช้บัตรเครดิตจะไม่รู้เลยว่า ตัวเองต้องเสียดอกเบี้ย เสียค่าธรรม
เนียม และค่าอื่นๆ (แบบมหาโหด) มารู้อีกที่ก็ใช้บัตรรูดจนเพลินแต่ต้องมาใช้หนี้ที่ตัวเองไม่ได้ตกลง
ไว้ด้วยอีกเท่าตัว เพราะเวลาส่งเงินใช้ไปทุกเดือนก็จะถูกหักดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายๆ ก่อลเหลือเงิน
เท่าไรก็จะเอามาใช้ต้นเงิน ผู้แบบชาวบ้านๆ " โกงกันหน้าด้านๆ " จนผู้ใช้บัตรหลายคนต้องกลับ
มาเป้นลูกหนี้ที่ไม่มีโอกาสที่จะใช้หนี้ที่เป้นเงินของตัวเองได้หมด ภาษานักกฎหมายเรียกว่า
" งูกินหาง " เหตุการณ์แบบนี้เคยเกิดขึ้นในประเทศอเมริกามาแล้วในยุกอุสาหกรรมใหม่
จากธุรกิจบัตรเครดิตที่ทำลายมนุษย์เงินเดือน ก็จะมีธุรกิจต่อเนื่องตามอีกรูปแบบหนึ่งคือ
" รับจ้างทวงหนี้ " โดยทั่วไปแล้วการรับทวงหนี้ตามกฎหมายก็จะเป็นสำนักงานกฎหมายทั่วไป
โดยยื่นฟ้องคดีต่อศาล แต่การทวงหนี้ของพวกสำนักกฎหมายเหล่านี้จะใช้ช่องว่ากฎหมายใน
การทวงหนี้เช่น
- กฎหมายบอกว่า เมื่อถึงกำหนดชำระหนี้ เจ้าหนี้ต้องบอกกล่าวให้ลูกหนี้ชำระหนี้ หากลูกหนี้
ไม่ชำระเจ้าหนี้ต้องฟ้องเรียกให้ลูกหนี้ชำระตามมูลหนี้
- แต่พวกนี้กับเสนอแนะเจ้าหนี้ให้ทวงหนี้อย่างเดียวแต่ยังไม่ต้องบอกกล่าวให้ชำระหนี้ เพื่อหา
ทางเลี่ยงกฎหมาย
เมื่อพวกนี้แนะนำวิธีเหล่านี้ให้เจ้าหนี้ๆ ก็หัวใส่มากขึ้น โดยจ้างให้พวกทวงหนี้ใช้วิธีนี้และ
ให้ไปทวงหนี้โดยไม่มีค่าดำเนินการใดๆ " ไม่ออกค่าใช้จ่าย " ทวงหนี้ได้เท่าใดก็แบ่งให้ตามส่วน
ถ้าทวงไม่ได้ภายในเวลาที่เจ้าหนี้กำหนดก็จะไม่ได้อะไร เจ้าหนี้ก็จะไปหาสำนักกฎหมายอื่นๆ ให้
มาดำเนินการต่อตามแบบเดิมๆนี้ พูดง่ายๆ " เจ้าหนี้ไม่ต้องจ่ายเงินเลยสักบาท แถมมีคนมาอาสา
รับทวงหนี้ให้ก่อน ( เสือนอนกิน ) " จนทุกวันนี้จะมีการทวงหนี้เป็นรู้แบบบริษัทรับจ้าง บริษัทสำนัก
กฎหมายต่างๆ หรือสำนักกฎหมาย และนักกฎหมายหรือทนายความหลายคนต่างหันมายึดแนวทาง
ทวงหนี้แบบนี้กันเป็นแถว โดยเฉพาะที่บริษัท และบริษัทรักษาความปลอดภัย ที่ตรวจทางทะเบียน
พาณิชย์จะพวกว่ามีบรรดาลูกเมีย ลูกหลาน เมียน้อย ของข้าราชการตำรวจทหารมีชื่ออยู่ด้วย หรือ
ตัวข้าราชการก็จะเป็นที่ปรึกษาให้ ( เพื่อเลี่ยงกฎหมายและกฎระเบียบข้าราชการ )
ส่วนการทวงหนี้ของพวกนี้จะเป็นลักษณะที่ดุดัน โหดเหี้ยม ทั้งข่มขู่ ทั้งด่า ทั้งดูถูก บางที่ใช้วิธี
ตามไปทวงถึงที่ทำงานให้ลูกหนี้อับอาย จนผู้ที่เป็นหนี้บัตรต่างนอนผวากลัวโดนยึดบ้าน อายึดเงิน
เดือนกันทุกคน ไม่ได้เป็นอันกินอันนอน
อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่เราจะต้องไปช่วยลูกหนี้ ก็เมื่อตัวเองหลวมตัวอยากเป็นคนยุคใหม่
ใช้บัตรเครดิต เมื่อใช้รุดจนเพลินก็ถูกเจ้าหนี้ตามทวงหนี้ก็ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ซึ่งเจตนารมย์
ของกฎหมายก็ไม่อยากให้ลูกหนี้โกงเจ้าหนี้ พูดตามนักกหมายทั่วๆไปเรียกว่า " เป็นหนี้ก็ต้องใช้
ตามกฎหมาย "
แต่เท่าที่เห็นวิธีการให้สินเชื่อบัตร การตามทวงหนี้ของพวกรับจ้างทวงหนี้ เห็นแล้วไม่ค่อยถูก
ต้องตามหลักการของกฎหมาย เป็นการเอากฎหมายมาใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ตามเจตนารมย์ที่แท้
จริงของกฎหมาย " พูดง่ายๆ ทำผิดกฎหมายนั่นเอง " แต่การที่พวกนี้ทำผิดกฎหมายถ้าไม่ทำให้คน
อื่นเดือดร้อนเราก็คงไม่เข้ามาช่วย แต่นี้ทำให้ลูกหนี้หลายๆ คนเดือดร้อน รวมถึงคนที่อยู่รอบๆ ตัว
ต้องได้รับความเดือดร้อนไปด้วย " เราทนเห็นคนที่มีความรู้กฎหมายทั้งหลายมาตั้งตัวเป็นเจ้าพ่อ
ทวงหนี้ทวงหนี้ หากินบนความทุกยากของชาวบ้าน "
ยังมีอีกหลายคนในสังคมที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากคนอื่น ที่ตัวเองไว้วางใจ เช่น ถูกนายจ้าง
เอาเปรียบ พี่น้องโกงที่ดิน สิทธิเมียน้อย สิทธิเมียหลาง สิทธิดูแลบุตร สิทธิในที่ดิน สิทธิใน
ที่อยู่อาศัย สิทธิในที่ทำกิน สิทธิในการรับบริการจากรัฐ สิทธิจะไม่ถูกใครโกง สิทธิที่จะไม่จ่าย
เงินให้กับเจ้าหนี้ไม่หนี้ไม่ถูกต้อง และสิทธิอื่นที่กฎหมายให้ความคุ้มครองไว้แต่ถูกคนอื่นกรีดกัน
เอาเปรียบ
เมื่อมีคนได้รับความเดือดร้อนจากพฤติกรรมและความไม่เป็นธรรมของกลุ่มบุคคลที่หาผล
ประโยชน์จากความทุกข์ของผู้อื่น เราในฐานะอดีตข้าราชการและนักกฎหมาย เมื่อพบเห็นพวก
ชอบโกง ชอบเอารัดเอาเปรียบ ชอบเห็นแก่ได้จนลืมว่าตัวเองก็ยืนอยู่บนกองทุกข์ของคนหลายๆ
คน เราจึงต้องหาทางใช้กฎหมายช่วยผู้ที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก ใช้ให้พวกเขาเหล่านี้ได้มีโอกาส
ลืมตาอ้าปาก ลุกขึ้มมาต่อสู้กับพวกเจ้าหนี้และพวกทวงหนี้ หรือทนายที่เห็นแก่ได้โดยไม่สำนึกถึง
วิชาชีพที่ตั้งเองได้ถูกอบรมสั่งสอนมา
วิธีกาที่ดีที่สุดอันดับแรกคือการให้ทุกคนได้รู้ข้อเท็จจริงของกฎหมาย เราจึงได้เขียนเว็บไซย์
S Detective & Lawyer ขึ้นด้วยตัวเอง และเป็นเว็บไซย์ที่ให้ความรู้กฎหมายกับทุกคนที่ประสบ
ปัญหาทางกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาใดๆ ( ครอบครัว หนี้สิน แรงงาน ทรัพย์สิน สิทธิเสรีภาพ
และอื่นๆ ) ให้ได้รู้และหาทางแก้ไขได้ด้วยตัวเองก่อน หากจำเป็นที่จะต้องดำเนินการใดๆ ทาง
กระบวนการทางกฎหมายหรือกระบวนการในศาล เราจะแนะนำหรือดำเนินการให้ตามที่เห็นสม
ควรและจำเป็น
" เราจะดำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม เพื่อให้ทุกคนอยู่รอดได้ในสังคม " นี่คือปณิธานของเราผู้ซึ่ง
ครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่า " เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ " เมื่อเราเป็นนักกฎหมายไม่สามารถที่จะจับ
ตัวพวกจอมโกงเหล่านี้มาลงโทษได้ และเราจะลงโทษพวกนี้โดยให้ผู้ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบทุกคน
ได้รู้กฎหมายเพื่อเอาไว้ลงโทษพวกคนเลวๆ ในสังคม
นี่คือตัวเราและความเป็นมาที่ทำให้เราต้องทำเว็บไซย์ด้วยตัวเองเพื่อช่วยคนอื่น เราไม่มีเจตนา
หรือมีอคติกับผู้หนึ่งผู้ใดไม่ว่าจะเป็นเจ้าหนี้ ลูกหนี้ ทนายความ สำนักกฎหมายอื่น หรือข้าราชการ
หรือนักกฎหมาเมืองระดับไหน เราต้องการเพียงให้ทุกคนในสังคมได้รับความเป็นธรรมจาก
กฎหมายเท่านั้น
เราไม่ได้เป็นหนี้ใคร ไม่มีบัตรเครดิต ไม่ขอสินเชื่อ เราอยู่อย่างพอเพรียง ไม่เดือดร้อนไม่เป็น
หนี้ใคร และไม่มีใครมาทวงหนี้ เราจึงไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อนหาเงิน ไม่จำเป็นต้องออกไปหา
คดี ไม่จำเป็นต้องยุให้ค้าความ ไม่ต้องคอยรับใช้นายทุน "นักการเมืองยังเรียกเราว่าพี่ ให้เกียรติ
ยิ่งกว่าเทวดา " แล้วทำไม่เราจะดิ้นรนไปหาอะไร
สิ่งที่มอบให้ท่าน
ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา.