" ล้มบนกองฟูก "
คำนี้นักธุรกิจหลายคนย่อมรู้ดี .มีความหมายว่า " มีหนี้สินมากมาย แต่ไม่ใช้หนี้ " หรือ " มีเงิน
แต่ไม่อยากใช้หนี้ " ไม่ว่าจะมีความหมายอย่างไร สรุป " มีเงินยังแต่ไม่ใช้หนี้ " เพราะกลัวว่า
ใช้หนี้แล้วจะทำให้หมดเนื้อหมดตัวกิจการที่ทำมาอาจจะล่มจมไม่มีเงินหมุนเวียน หรือจะพูดอีก
อย่างก็คือ " ไม่อยากจน "
อย่างที่รู้ๆ กันอยู่ คนทำธุรกิจทุกคนต่างต้องอาศัยเงินกู้ยืมในการดำเนินธุรกิจหรือกิจการบาง
ครั้งธุรกิจไปได้ดีก็มีเงินใช้หนี้ที่กู้ยืมมาแต่บางครั้งธุรกิจไม่ค่อยดีก็หาเงินใช้หนี้ได้ยาก เมื่อหา
เงินใช้หนี้ไม่ได้เจ้าหนี้ก็มักจะโหดร้ายไม่ยอมให้พัดผ่อนหนี้แถมยังคิดเบี้ยปรับเบี้ยผิดนัดและ
ดอกเบี้ยทบต้นอีก ( โหดมหาโหด )
บางครั้งเจ้าหนี้หัวใส ก็จะเรียกลูกหนี้ให้เข้าไปพบเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ลูกหนี้ก็คิดว่าทำไม
เจ้าหนี้ชั่งใจดีแบบนี้ " ลูกหนี้ไม่มีเงินใช้หนี้ ก็ยังให้โอกาสผ่อนใช้หนี้ใหม่ แถมยังหยุดดอกเบี้ย
ลดดอกเบี้ย ให้ผ่อนชำระแค่เงินต้น " เจ้าหนี้ แบบนี้หาได้ยากจริงๆ แต่ลูกหนี้หาไม่ว่ากำลังถูก
เจ้าหนี้หลอกให้ตกหลุมนรกแบบโงหัวไม่ขึ้น เพราะเวลาเจ้าหนี้พูดว่าจะลดดอกลดต้นก็เป็น
เพียงคำพูดหวานๆ แสดงความเห็นอกเห็นใจแบบหลอกๆ เท่านั้น ลูกหนี้หลายคนหลงดีใจ
จึงรีบลงชื่อในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ทันทีโดยไม่ได้อ่านข้อความในหนังสือนั้นเลย หรือถึง
แม้จะอ่าน พวกเจ้าหนี้ก็จะ พยายามหาทางให้ลงชื่อโดยไม่ต้องอ่าน หรือพูดจาหว่านล้อมต่างๆ
นาๆ ในที่สุดลูกหนี้ก็ยอมลงชื่อโดย ไม่มีโอกาสได้ อ่านข้อความ
เราพูดได้เต็มปากว่า ที่ลูกหนี้ลงชื่อไปนั้นเป็นการรับสภาพหนี้ตามกฎหมาย หมายความว่า
หนี้สินใดๆ ที่มีอยู่รวมทั้งดอกเบี้ย เบี้ยปรับ เบี้ยผิดนัด ซึ่งเจ้าหนี้อาจคิดดอกเบี้ยถูกต้องหรือไม่
ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งทรัพย์สินที่เอาไปจำนอง จำนำ ค้ำประกันเงินกู้ยืม ให้มาเป็นหนี้ใหม่
และถ้าลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระหนี้อีก ลูกหนี้จะได้ไม่ต้องมีข้อต่อสู้ เจ้าหนี้ทางศาลได้พูดง่ายๆ " ลูกหนี้
ไม่มีทางต่อสู้เลย ต้องถูกยึดทรัพย์สินอย่างเดียว " ที่เราพูดได้เต็มปากแบบนี้ก็เพราะว่า เจ้าหนี้
เรียกให้เข้าไปปรับโครงสร้างหนี้ และลูกหนี้ขอดูสัญญาที่จะให้ปรับโครงสร้างหนี้นั้นว่า เป็นไป
ตามที่เจ้าหนี้ได้พูดด้วยปากเอาไว้หรือไม่ และบอกว่าจะเอาไปปรึกษากับนักกฎหมายหรือทนาย
ความก่อน รับรองได้เลยว่าไม่มีเจ้าหนี้คนไหนที่จะให้สัญญา ปรับโครงสร้างหนี้ หรือรับสภาพหนี้
ให้ลูกหนี้กลับไปดูที่บ้าน หรือเอาไปปรึกษากับทนายก่อนที่จะตกลงแน่นอนเพราะในสัญญานั้นจะ
เขียนในลักษณะที่ลูกหนี้ไม่มีทางจะดิ้นหลุดได้เลย .. เราจึงอยากเรียกวิธีการประนอมหนี้หรือปรับ
โครงสร้างหนี้หรือรับสภาพหนี้แบบนี้ว่า " สัญญานรก " หรือตามกฎหมายเรียกว่า " สัญญาที่ไม่เป็น
ธรรม " สัญญแบบนี้ตัวลูกหนี้และครอบครัว ไม่มีโอกาสที่จะลืมตาอ้าปากได้เลย " ตายสถานเดียว "
( หมดเนื้อหมดตัว )
เจ้าหนี้มักจะขู่ลูกหนี้ว่า " ถ้าไม่ปรับโครงสร้างหนี้ หรือทำประนอมหนี้ ก็จะฟ้อง ยึดบ้าน ยึดที่ดิน
ยึดเงิน " คำขู่แบบนี้มักจะทำให้ลูกหนี้กลัวมาก และก็จะยอมทำตามที่เจ้าหนี้ต้องการ แต่จริงๆแล้ว
ถึงแม้ลูกหนี้ไม่ประนอมหนี้ หรือปรับโครงสร้างหนี้เจ้าหนี้ก็ฟ้องอยู่ดี เพราะในสัญญาที่ทำขึ้นใหม่
นั้นลูกหนี้ผิดนัดอีกไม่แล้ว ถ้าผิดนัดอีกก็ถูกฟ้องทั้นที ลูกหนี้จะมาขอปรับโครงสร้างหนี้หรือทำประ
นอมหนี้อีก เจ้าหนี้ก็ไม่สนใจแล้ว ถ้าพูดตามภาษาชาวบ้าน " หน้าเนื้อ ใจเสือ " ทำที่เป็นเห็นใจ
ลูกหนี้แต่พอลูกหนี้ตายใจก็จับกินเลย
แต่การปรับโครงส้างหนี้ หรือการประนอมหนี้ก็มีข้อดีอยู่บ้าง ถ้าลูกหนี้ดูสัญญาให้ถ้วนถี่และมี
ความสามารถที่จะหาเงินมาใช้ได้จริงตามสัญญานั้น ถ้าดูแล้วไม่สามารถทำได้จริงก็อย่างไปทำ
สัญญาเลย เพราะจะมีผลหนักกว่าเดิมอีกหลายเท่า
ลูกหนี้บางรายที่หัวไว้ก็มักจะคิดหาทางหลบหนี้ " ไม่ใช้หนี้ " โดยยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปให้
ญาติพี่น้อง โดยคิดว่า เจ้าหนี้ไม่อาจตามมายึดทรัพย์สินได้ เรียกว่า " อยากจะล้มบนกองฟูก "
แต่ด้วยความที่ไม่รู้ข้อกฎหมาย และทำให้ทนายของเจ้าหนี้รู้ ( ทนายเก่งๆ ) ลูกหนี้ก็จะติดคุกฐาน
โกงเจ้าหนี้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๕๐ โทษจำคุก ๒ ปี และ ทรัพย์สินที่ยักย้ายไปนั้น
ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ใครก็ต้องยึดเอามาใช่หนี้ให้กับเจ้าหนี้ ถ้าผู้ที่ครอบครองทรัพย์นั้นไม่ยอมให้คืน
โดยอ้างสิทธิอันไม่ชอบด้วยกฎหมายก็มีความผิดเช่นเดียวตัวลูกหนี้ ( โทษจำคุก ๒ ปี ) และอาจ
ผิดฐานรับของโจรด้วยโทษจำคุก ๕ ปี ลูกหนี้ที่คิดจะยักย้ายเททรัพย์สินเพื่อหลบเจ้าหนี้จงระวัง
ไว้ด้วย จะทำก็ควรปรึกษานักกฎหมายหรือทนาย จะดีกว่า เพราะกฎหมายที่ทางออกให้เลือกมาก
มาย ( ไม่ผิด ไม่ติดคุก ไม่เสียทรัพย์ )
มีลูกหนี้คนหลบเจ้าหนี้สำเร็จมาแล้วก็มี โดยที่ไม่ต้องติดคุก และเจ้าหนี้ก็ไม่สามารถยึดทรัพย์สิน
ที่ได้โดยอาศัยข้อกฎหมาย ที่เปิดช่องให้ทำได้ .. ถึงแม้เจ้าหนี้จะรู้ว่าลูกหนี้ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน
ก็ไม่สามารถเอาผิดลูกหนี้ฐานโกงเจ้าหนี้ได้ นี้แหละ ที่เรียกว่า " ล้มบนกองฟูกอย่างแท้จริง "
เท่าที่เห็นมาลูกหนี้ที่จะล้มบนกองฟูกอย่างแท้จริงได้นั้น มักจะเป็นนักธุรกิจที่ ใจกว้าง กล้าได้กล้า
เสียไม่ขี้เหนียวไม่งกไม่ดูหมิ่นเหยีดหยามผู้อื่น และที่สำคัญมีนักกฎหมาย (มืออาชีพ) ประจำตัว
ดังนั้นคนที่คิดล้นบนกองฟูกอย่างแท้จริง ( มีเงิน ไม่หนี ไม่ใช้ ไม่ให้ยึด ) ต้องมีหลักเบื้องต้น
แบบนี้ก่อน ถึงจะล้มบนกองฟูกได้
๑ . ใจกว้าง
๒ . กล้าได้กล้าเสีย
๓ . ไม่ขี้เหนียว
๔ . ไม่งก
๕ . ไม่ดูหมิ่นเหยีดหยามผู้อื่น
ถ้าไม่มีคุณสมบัติครบทั้ง ๕ ข้อ รับรองได้จะไม่มีนักกฎหมายมืออาชีพให้ความช่วยเหลือให้ล้มบน
กองฟูกจนประสบความสำเร็จได้ ถึงจะมีก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ คนใกล้ชิด( สามี
ภริยา ) ก็มีส่วนที่จะไม่ให้ประสบความสำเร็จเช่นกัน
นักธุรกิจ หรือเจ้าของกิจการที่กู้ยืมเงินมาลงทุนหลายล้านบาท และดูแล้วว่ากิจการจะไปไม่รอด
แน่ๆ ต้องการที่จะรอดจากการเป็นหนี้ ไม่ต้องถูกยึดทรัพย์ ยึดกิจการ สูณเสียทรัพย์สินที่ทำมาหาได้
หรือครองครัวต้องยากจนลง ต้องยึดหลัก ๕ ข้อ ดังกล่าวไว้ให้ได้ แล้วจะมีคนมาช่วยให้รอดพ้น วิกฤติหนี้จนล้มบนกองฟูกได้อย่างแท้จริง เมื่อได้หลัก ๕ ข้อแล้วต่อไป ก็ต้องรู้ว่าจะมีกฎหมาย
อะไรที่มาเกี่ยวข้องบ้าง ที่จะล้มบนกองฟูกได้
๑ . ต้องรู้ว่าจะมีกฎหมายอะไรที่มาเกี่ยวข้องบ้าง
๒ . จะใช้กฎหมายข้อใดอ้างอิง
๓ . จะใช้เทคนิคกฎหมายใดที่ทำให้ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง
ถ้าไม่รู้สิ่งเหล่านี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะล้มบนกองฟูก ขืนทำไปก็มีแต่จะติดคุกสุดท้ายก็หมดตัว
คำเตือน ท่านที่ต้องการล้มบนกองฟูก มีทั้งข้อดีข้อเสีย
ข้อดี ... ไม่ต้องใช้หนี้ ไม่ต้องถูกยึดทรัพย์ ไม่ติดคุก ธุรกิจไม่ล่มจม ครอบครัวมีความสุข
สงสารเจ้าหนี้เมื่อไรก็ค่อยใช้หนี้ไม่ต้องกลัวคำขู่ของเจ้าหนี้
ข้อเสีย ต้องเสียค่าจ้างนักกฎหมายมี่สูง ต้องมีทนายหรือนักกฎหมายประจำ อาจเสียชื่อเสียง
กับเจ้าหนี้ .. ติดแบล็คลิส
ต่อไปนี้มารู้กันว่าวิธีล้มบนกองฟูกที่เรียกว่า ( มีเงิน ไม่หนี ไม่ใช้ ไม่ให้ยึด ไม่จน ) โดยมี
กฎหมายใช้อ้างอิง แบบออกเป็น ๓ วิธี
๑ . รู้ตัวว่าธุรกิจจะไปไม่รอดจริงๆ ( ก่อนเจ้าหนี้ถูกฟ้อง )
๒ . ธุรกิจไปไม่รอด ( กำลังถูกฟ้อง )
๓ . ต้องใช้หนี้ตามคำพิพากษา ( หลังศาลพิพากษาให้ใช้หนี้ และอยู่ระหว่างเอาทรัพย์จำนอง
จำนำ ออกขายทอกตลาด )
ทั้ง ๓ วิธี สามารถจะใช้กฎหมายอ้างอิงได้ดังต่อไปนี้
( ต้องขอโทษที่สำหรับสมาชิกทั่วไป เราสามารถแนะนำท่านได้เพรียงเท่านี้ ส่วนที่เหลือในหลัก
สำคัญเราจะเขียนไว้ในส่วนข้อมูล VIP ของฟรีมีน้อยต้องขอโทษด้วย (แต่ก็ทำให้หลายคนที่เป็น
หนี้บัตรอยากที่จะล่มบนกองฟูกบ้าง) อยากรู้เพิ่มเติมต้องเป็นสมาชิก VIP ) >>>>
เราพยายามช่วยท่านให้มากที่สุดแล้ว ต่อไปต้องขึ้นอยู่กับตัวท่านว่าจะช่วยตัวเองได้
มากแค่ไหน
ไม่อยากจะช่วยตัวเองให้รอดพ้นจากความทุกข์ ก็ยอมให้พวกทวงหนี้เหยียบย้ำต่อไป
" ของฟรีไม่มีในโลก "
คำเตือน
เป็นหนี้ก็ต้องใช้หนี้ตามกฎหมาย ไม่มีเงินใช้หนี้ ก็ไม่ต้องใช้หนี้ตามกฎหมาย |