ความรับผิดของนิติบุคคล,ละเมิด,ค่าเสียหายแก่ร่างกาย,ค่าเสียหายอันมิใช่ตัวเงิน
งดการสืบพยานหลักฐาน,รับฟังพยานบุคคล
2162/2532
โจทก์และจำเลยที่ 1 เป็นนักเรียนโรงเรียนพลตำรวจภูธร 4 ของกรมตำรวจจำเลย
ที่ 5 การที่จำเลยที่ 1 เป็นเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ 5 การฝึกชัยยะเป็นการปฏิบัติหน้าที่
ของจำเลยที่1 ในฐานะนักเรียนพลตำรวจตามคำสั่ง และนโยบายของจำเลยที่ 5 เมื่อ
การปฏิบัติหน้าที่ของจำเลยที่ 1เกิดความเสียหายขึ้นก็เรียกได้ว่าจำเลยที่ 1 ทำละเมิด
ในหน้าที่การงาน กรมตำรวจ จำเลยที่ 5 แม้ไม่ได้ร่วมทำละเมิดและมิได้เป็นลูกจ้าง
นายจ้างหรือตัวแทนก็จำต้องร่วมรับผิดเสียค่าสินไหมทดแทน เพื่อความเสียหายนั้น
ด้วยตาม ป.พ.พ. มาตรา 76
การที่มีปืนในความครอบครองของจำเลยที่ 1 ลั่นขึ้น และโจทก์ได้รับอันตรายสาหัส
เป็นการทำให้โจทก์เสียหายแก่ร่างกายซึ่งตาม ป.พ.พ.มาตรา 444 โจทก์ชอบที่จะได้รับ
ชดใช้ค่าใช้จ่ายอัตราต้องเสียไป กับเรียกร้องเอาค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหาย
อย่างอื่นอันมิใช่ตัวเงิน ตามมาตรา 446 การวินิจฉัยถึงค่าใช้จ่ายและค่าเสียหาย ไม่มี
กฎหมายบัญญัติว่าจะต้องคำนึ่งถึงฐานะและรายได้ของผู้เสียหายด้วย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานจำเลยรวม 5 ปาก เพราะพยานเหล่านี้กับพยาน
ที่จำเลยที่ 1 และที่ 5 นำเข้าสืบแล้วกับตัวจำเลยที่ 1 เป็นพยานคู่กัน แม้สืบไปก็ได้
ความเหมือนกับที่จำเลยที่ 1 กับพวกเบิกความมาแล้วทั้งได้ความจากสำนวนสอบสวน
เพื่อพิจารณาทัณฑ์ทางวินัยแก่จำเลยที่ 1 ว่าพยานเหล่านี้ไม่เห็นเหตุการณ์ขณะเกิด
เหตุ แต่มารู้เห็นเมื่อเกิดเหตุแล้ว สืบไปก็ไม่เป็นประโยชน์แก่คดี คำสั่งงดสืบพยาน
จึงชอบแล้ว