- อ่านและฟังจากทีวีทุกช่องแล้วสงสัยจริงจริง  ในเมื่อคนจะเป้นนายกรัฐมณตรีต้องบริหารบ้านเมือง และต้องไม่มีเป็นกรรมการหรือบริหารงานเอกชนหรือให้คำปรึกษาหรือมีส่วนได้เสียกับเอกชน

 - มีคำถามง่ายง่ายที่เด็กเด็กก็น่าจะตอบได้  "คนที่มาอ้าวว่า มาให้คำแนะนำเกี่ยวกับน้ำ พวกที่มาสร้างที่อยู่อาศัยและซื้อขายที่ดินเท่านั้น มิได้มีความรู้หรือทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำเลย"  "ไปประชุมลับกันทำไม ในเมื่อไม่มีประโยชน์ทับซ้อนอะไร" "โครงการฟลัดเวย์ยังไม่ได้กำหนดเส้นทางที่แน่นชัด หากชี้เส้นทางตามใจใครจะได้ประโยชน์"  งง มาก

 - ผมรักประเทศไม่ได้รักคนบริหารประเทศแบบลัมลมคนใน(ว.๕) เรื่องแบบนี้ไม่น่ามีความลับเลย (ว.๕)  จะอ้างว่านักธุรกิจไม่อยากเปิดตัวกลัวถูกนักข่าวสัมภาษณ์ แล้วทำไมไม่แสดงความคิดเห็นผ่านสือ(สรยุทธ)ละครับ

--------------------------------------------------------------------

ข่าวจากไทยรัฐ http://www.thairath.co.th/content/pol/239801 

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยอมเปิดปาก ปม ว.5 โฟร์ซีซั่น อ้างไปแบบเปิดเผยทุกคนทราบดี ลั่น ไม่มีเจรจาประโยชน์ทับซ้อนแน่นอน บินไปมาเลเซีย เล็งขอตัวผู้ต้องหาร่วมแก๊งอิหร่าน กลับมาดำเนินคดี...

เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 20 ก.พ. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเยือนสหพันธรัฐมาเลเซียอย่างเป็นทางการถึงการหารือ กับฝ่ายมาเลเซียในการขอตัวชาวอิหร่านผู้ต้องหาวางระเบิดย่านสุขุมวิทว่า เราไปเยือนครั้งแรกเราคงจะไปคุยกันเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การค้าขายตามแนวชายแดนที่ยังต้องมีหลายมุมที่จะต้องหารือ รวมถึงความตกลง ส่วนเรื่องผู้ต้องหาชาวอิหร่านนั้นคงต้องว่าไปตามขั้นตอน แต่ต้องดูจังหวะก่อน ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะคุยเรื่องผู้ต้องหาหรือไม่ ต้องขอดูก่อน วันนี้เราจะไปคุยเรื่องกรอบความร่วมมือมากกว่า เราไม่เน้นคุยในรายละเอียดแต่เราคิดว่าสิ่งที่จะทำอย่างแรกคือกรอบในการเจรจาความร่วมมือตามแนวชายแดนระหว่างไทย-มาเลเซีย ซึ่งจะเป็นหลักในการวางกรอบความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคณะประกอบด้วย พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม และพล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเครื่องบินของกองทัพอากาศ (Airbus 310-300) เที่ยวบินพิเศษ RTAF 219 ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกัวลาลัมเปอร์ และเดินทางต่อไปที่สำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย (Dataran Perdana) เมืองปุตราจายา เพื่อเข้าพบดาโต๊ะ ชรี มูฮัมหมัด นาจิบ บิน ตุน ฮัจญี อับดุล ราซัค นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐมาเลเซีย พร้อมหารือเต็มคณะระหว่างไทย – มาเลเซีย และลงนามในการแถลงการณ์ร่วม

จากนั้นเวลา 18.15 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย ที่พระราชวัง Istana Negara ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ กระทั่งเวลา 20.00 น. เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่นายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรี (Seri Perdana) ก่อนเดินทางกลับประเทศไทยถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 23.25 น. วันเดียวกัน

นายกรัฐมนตรี ยังได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเยือนสหพันธรัฐมาเลเซียอย่างเป็นทางการถึงกรณีที่การไปหารือกับกลุ่มนักธุรกิจโดยเฉพาะนายเศรษฐา ทวีสิน ผู้บริหารแสนสิริ กรุ๊ป ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นว่า

"ต้องเรียนว่าเรื่องไม่มีอะไร และดิฉันเองก็ไม่เคยบอกว่าเราจะพูดไม่ตรงกัน สำหรับกรณีนี้จริงๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สื่อก็ทราบกันโดยทั่วไปว่า เราก็ไปโดยไปเปิดเผยและยืนยันว่าไม่มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน ก็อยากขอความร่วมมือ อยากวอนให้ดูว่าจริงๆ แล้วมันก็มีหลายคนที่อยากจะให้ข้อคิดเห็นโดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน และวันนี้เรายังมีภารกิจอย่างอื่นที่จะทำอีกมาก ดิฉันเองก็ไปทุกคนก็ทราบกันดี ก็ยืนยันเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนไม่มี เรื่องส่วนตัวก็ไม่มี"

อย่างไรก็ดี เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามจะถามต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้หันหน้าหนีโดยไม่ตอบใดๆ อีก ก่อนที่จะเดินเข้าไปในตัวอาคารผู้โดยสารขาออกทันที

------------------------------------------------------------------------------