เมื่อท่านมีสิทธิที่จะรู้ว่าคนที่มาพบท่านนั้นเป็นใครมาจากไหน ถึงแม้คนที่มาพบจะอ้างว่ามา
ทวงหนี้ แต่มิใช่ว่าจะมีอำนาจทวงหนี้ได้เสมอไป เมื่อมาทวงหนี้แต่ไม่แสดงหนังสือมอบอำนาจ
และบอกชื่อนามสกุลให้กับลูกหนี้ ก็เท่ากับไม่มีอำนาจทวงหนี้แต่อย่างใด
เมื่อไม่มีอำนาจทวงหนี้แล้วกระทำใดที่ได้ทำลงไปก็ถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย อย่างเช่น
เสียงที่ท่านฟังไปแล้ว สมาชิกที่เป็นรู้หนี้ปฏิเสธที่จะพบกับผู้ที่อ้างมาทวงหนี้ได้ แต่ตอนท้ายๆ
ที่มีเสียงสุภาพสตรีที่โทรมาฝากข้อความถึงลูกหนี้ และขู่ฟ้องศาล หลายท่านเคยได้ยินเสียงมาบ้าง
พฤติกรรมแบบนี้ก็เปรียบเสมือน " โจรในคราบนักกฎหมาย " ไม่คิดจะเอาวิชาความรู้
กฎหมายมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับสังคม แต่กลับเอามาใช้หาประโยชน์ใส่ตัวในทางที่ผิดๆ
( ไม่รู้ว่าสภาทนายทำอะไรอยู่ ทำไม่จึงควบคุมพวกนี้ไม่ได้ เที่ยวปล่อยให้รังแกชาวบ้านตาดำ )
จากเสียงที่ท่านฟังนั้น ท่านคงรู้สึกว่าทำไมคนที่ทวงหนี้จึง
๑ . บอกชื่อไม่บอกนามสกุลให้รู้ และขอถ่านหนังสือมอบอำนาจและบัตรประชาชนก็ไม่ยอม
๒ . อ้างในทำไม่ชำระหนี้ และอ้างทนายและสำนักงานกฎหมายด้วย
๓ . ที่บอกว่าให้ลงมาเซ็นใบคำฟ้อง ที่สมาชิกปฏิเสธไปนี้ถูกต้อง ซึ่งเราแนะนำไว้ เพราะไม่รู้ว่า
เป็นเอาสารอะไรที่เอามาให้เซ็น หาดเซ็นไปแล้ว เป็นการรับสภาพหนี้ ๒๐ ล้านจะทำอย่างไร
ตามากฎหมายแล้ว ถ้าลูกหนี้ปฏิเสธการชำระหนี้ เจ้าหนี้ต้องฟ้องอย่างเดียวเท่านั้น จะมาอ้าง
ให้ลงชื่อฟ้อง หรือจะฝากคนนั้นคนนี้มาบอกไม่ได้ ถือว่ามีเจตนาไม่ชอบด้วยกฎหมาย
พฤติกรรมนี้ สมาชิกได้แจ้งความดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างส่งคำบอกกล่าว
ทั้งธนาคารบัตร สำนักกฎหมาย ตัวผู้อ้างมาทวงหนี้ สุภาพสตรีที่โทรมาฝากข้อความ รับรองได้ว่า
งานนี้สำนักกฎหมายนี้ต้องถูกเลิกจ้างแน่นอน เพราะสมาชิกเรียกค่าเสียหายไป หลายล้าน
นี้เป็นเพรียงอุทธาหรณ์ไว้สำหรับสมาชิกท่านอื่นๆ จะได้เตรียมตัวเอาไว้ เมื่อถึงเวลาพวกนี้มา
ตามทวงหนี้ถึงที่ทำงาน
<<< กลับ